9 ที่เที่ยวสิงห์บุรี เป็นจังหวัดในภาคกลางที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เนื่องจากบริเวณนี้เคยเป็นฐานทัพหรือค่ายบางระจันในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำไหลผ่าน การคมนาคมสะดวกมาก เกษตรกรรมก็พัฒนามากเช่นกัน
สิงห์บุรีเป็นจังหวัดประวัติศาสตร์ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาและประวัติศาสตร์มากมาย หากใครมีเวลาในช่วงวันหยุดหรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ สิงห์บุรีถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะคนกรุงเทพใช้เวลาขับรถเพียง 2 ชั่วโมงกว่าๆ วันนี้เราก็เลยมารวมตัวกันที่นี่ บทความนี้แบ่งปัน “สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสิงห์บุรี”
9 ที่เที่ยวสิงห์บุรี โบสถ์ต้นโพธิ์ วัดไทร
9 ที่เที่ยวสิงห์บุรี วัดไทรเป็นวัดประจำครอบครัวในจังหวัดสิงห์บุรีมาหลายร้อยปี คาดว่าวัดไทรน่าจะสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ความพิเศษของวัดนี้ไม่ต่างจากวัดอื่นๆ คือ ต้นไทรธรรมชาติที่ขึ้นปกคลุมโบสถ์อย่างสวยงาม การคลุมด้วยหญ้าของต้นไทรช่วยป้องกันฝนและแสงแดด ดังนั้นจะสังเกตได้ว่าโบสถ์ที่นี่ไม่มีหลังคา ตัวโบสถ์เองก็สวยงามและมหัศจรรย์มาก เนื่องจาก “หลวงพ่อท่ายัน” หรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงพ่อขาว” ประดิษฐานอยู่ภายในโบสถ์ซึ่งส่องแสงสีทองอร่าม นี่คือรูปปั้นที่ชาวบ้านจ่ายเงินเพื่อบูรณะเพื่อรักษาความสวยงาม ต้องบอกว่าสวยงามน่าบูชาและขอพรให้โชคดีในชีวิตครับ
อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์
อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีเยี่ยม เพราะต้นไม้ในสวนมีความเขียวชอุ่มมากและมีแม่น้ำที่สวยงามบรรยากาศและอากาศดีมาก คุณสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์และเติมพลังให้ปอดได้อย่างเต็มที่ มีอาคารมากมายให้เราเรียนรู้และเรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์ปลาได้ฟรี จังหวัดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องปลากระพงดำมากที่สุด ใครที่ได้มีโอกาสลองชิมจะต้องติดใจในรสชาติของมันอย่างแน่นอน สำหรับใครที่ประทับใจบรรยากาศแต่ยังไม่อยากกลับบ้าน ทางอุทยานก็พร้อมให้บริการห้องพักที่สะดวกสบายให้คุณได้นอนพักผ่อน
วัดหน้าพระธาตุ
วัดหน้าพระธาตุเป็นอีกวัดที่ควรแวะชมความงดงาม สถาปัตยกรรมของวัดมีความน่าสนใจมากไม่ว่าจะเป็นฐานโค้งของโบสถ์หรือคำว่าศิลปะ “การทิ้งขยะ” ซึ่งเป็นศิลปะที่ได้รับความนิยมมากในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมทั้งภายในโบสถ์ก็มีภาพวาดบอกเล่าเกี่ยวกับชาดก พระพุทธศาสนา และวิถีชีวิตของชาวบ้าน มันค่อนข้างสวยงามและน่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีหอเก็บน้ำและโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมด้านหลังโบสถ์ในวัดให้คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวได้สักการะ
วัดม่วงชุม
ในอดีตวัดเมืองชุมมีชื่อว่า “วัดกระดังงา” ซึ่งเป็นวัดร้างมาตั้งแต่สมัยสงครามไทย-พม่า หากย้อนเวลากลับไปน่าจะประมาณ 400 ปีที่แล้ว เนื่องจากเป็นวัดโบราณ จึงมีการขุดพบพระพุทธรูปหินทรายจำนวนมาก ที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นที่สุดของวัดนี้คือพระมหาเจดีย์บางระจันซึ่งมีสีทองอร่ามและมีระฆังคว่ำอันเป็นเอกลักษณ์ อีกประการหนึ่งคือรูปปั้นหลวงพ่อขาวและหลวงพ่อดำซึ่งว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์มากและควรบูชาเพื่อความโชคดี นอกจากนี้ใครที่ชื่นชอบในการปฏิบัติธรรมก็สามารถเข้ามาได้ เพราะที่นี่มีบุญในวันสำคัญเสมอ
ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน
ตลาดไทยโบราณบ้านระจัน ตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์เก่าต้น ตลาดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวครบจบในที่เดียว นอกจากไปวัดทำบุญแล้วยังไปหาของอร่อยและชอปปิ้งได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามตลาดไทยย้อนยุคก็มีกิมมิคเป็นของตัวเองซึ่งมีทั้งการตกแต่งแบบดั้งเดิมและแบบย้อนยุคที่หลากหลาย การแต่งตัวด้วยการพูดว่า “เจ้าคะ/เจ้า” จะทำให้คุณดูเหมือนย้อนเวลากลับไป ในส่วนของอาหารก็ครบครันมากมีทั้งของหวานและของดองราคาหลายสิบบาทให้เราได้เลือกกัน นอกจากนี้ยังมีการแสดงพื้นบ้านให้เราได้เพลิดเพลินซึ่งเป็นอีกสถานที่ที่น่าไปเยี่ยมชม
วัดพระนอนจักรสีห์
ภายในวัดมี “พระพุทธไสยาสน์” ขนาดใหญ่ ซึ่งมีความยาวมากกว่า 47 เมตร เรียกได้ว่าเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าคนท้องถิ่นหรือนักท่องเที่ยวจะผ่านวัดพระนอนจักรสีห์ก็ต้องแวะชมความงามของพระพุทธรูปและแสดงความเคารพต่อความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต รวมถึงอดีตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชหรือรัชกาลที่ 9 ของเราเองก็เสด็จมาถวายความอาลัยด้วย ดังนั้นหากใครมีโอกาสมาเยือนสิงห์บุรีก็หวังว่าคงมาวัดแห่งนี้
บ้านข้าวหอม ฟาร์มสเตย์
บ้านข้าวหอมเป็นมากกว่าสถานที่สำหรับนอนหลับ แต่ที่นี่คือที่พักที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสชีวิตความเป็นชาวสิงห์บุรีอย่างแท้จริง โดยมีกิจกรรมต่างๆ ทั้งลองทำขนมไทย เดินหรือปั่นจักรยานในนาข้าว ชมพืชพรรณที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี และชมเป็ด มีห่านเล่นอยู่ในบ่อด้วย รวมถึงโรงสีข้าวต่างๆ ห้องพักเป็นบ้านไทยสไตล์ท้องถิ่นอย่างแท้จริง และหากตื่นนอนตอนเช้าก็มองเห็นหมอกผ่านหน้าต่างบ้านไทย ว่ากันว่าเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนและอาหารไทยอร่อยๆ บอกเลยว่าถ้ามา จะต้องติดใจแน่นอน
ศูนย์อนุรักษ์ควายไทยเขางาม
ควายไทยเป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่อยู่ร่วมกับชาวไทยมายาวนาน กระบือมีประโยชน์ในการเกษตรเพราะช่วยบำรุงดิน ในอดีตมีการใช้กระบือเป็นพาหนะในการต่อสู้กับศัตรู ในสมัยบางระจันหรือสมัยกรุงศรีอยุธยา จังหวัดสิงห์บุรีจึงเห็นความสำคัญของควายไทยจึงได้จัดตั้งศูนย์อนุรักษ์เพื่อดูแลและขยายพันธุ์ควายไทย นอกจากนี้ศูนย์อนุรักษ์ยังเปิดให้ทุกคนเข้ามาเรียนรู้อีกด้วย ดูควายไทยให้ละเอียดยิ่งขึ้น คุณมีอิสระที่จะจัดเก็บรูปภาพและอัพโหลดลงโซเชียลมีเดีย หากใครอยากเห็นความน่ารักของควายไทยแบบใกล้ชิด สามารถเข้าไปดูได้เลย
โบราณสถานเตาเผาแม่น้ำน้อย
หากใครอยากย้อนเวลากลับไปหรือชอบมรดกทางวัฒนธรรม ฉันอยากจะแนะนำมัน “เตาแม่น้ำน้อยโบราณ” เป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องดินเผาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จึงพบโบราณวัตถุมากมายที่นี่ ทั้งกระเบื้องปูพื้น จอฟฟา โถ อ่าง ฯลฯ ว่ากันว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศเราในยุคนั้นมาก หากใครอยากศึกษาและทำความเข้าใจประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตสมัยกรุงศรีอยุธยาเชิญแวะมาเยี่ยมชมเราได้ “ซากปรักหักพังโบราณเตาเผาเน่ยเหอ”